ความยั่งยืน
2025 ปีแห่งสัญญาณเตือนจากธรรมชาติ
30 พฤษภาคม 2568
ปี 2025 เริ่มต้นด้วยปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าตกใจทั่วโลก อย่างไฟป่าที่โหมกระหน่ำใน LA เรียกได้ว่าภาพที่ออกมาเหมือนจมอยู่ในทะเลเพลิงเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่มันกำลังส่งสัญญาณเตือนภัยที่สำคัญ
ซึ่งจริง ๆ แล้วก็มีหลายเหตุธรรมชาติที่ผ่านมาในปี 2024 ไม่ว่าจะเป็นหิมะตกในทะเลทรายซาฮารา น้ำท่วมใหญ่ในดูไบ ที่เกิดขึ้นในรอบหลายปี นักวิทยาศาสตร์ต่างคาดเดากันว่าสิ่งเหล่านี้เกิดจากอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ บ่งบอกถึงสภาวะโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ผิดปกติ เพราะโลกสร้างสมดุลของภูมิอากาศจากการไหลเวียนของกระแสน้ำอุ่นและน้ำเย็นในมหาสมุทร การไหลเวียนของกระแสน้ำนี้ก่อให้เกิดฤดูกาลและภูมิอากาศ แต่เมื่อวัฏจักรนี้ถูกเปลี่ยน ผลที่ตามมาคือ “ภัยธรรมชาติที่รุนแรงแบบสุดขั้ว”
จากปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทำให้เห็นถึงสภาวะโลกที่เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้นเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์อย่างชัดเจน และโลกกำลังส่งสัญญาณเตือนให้เราตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้
มีรายงานเรื่อง State of the Climate 2024 ขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกในระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน อบอุ่นกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรมถึง 1.54 องศาเซลเซียส และสูงกว่าระดับที่กำหนดไว้ในความตกลงปารีสปี 2015 ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
โดยนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าเหตุการณ์ทางธรรมชาติในปี 2025 จะมีความรุนแรงและถี่มากขึ้นจากเดิมจนเราอาจไม่ทันตั้งตัว เห็นได้จากประเทศไทยที่ฝนตกในช่วงเข้าสู่ต้นฤดูหนาว ส่วนฤดูหนาวอยู่ในช่วงกลางเดือนแรกของต้นปี รวมถึงเหตุน้ำท่วมหนักในเชียงใหม่ และภาคใต้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนอย่างมหาศาล นี่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของความเปลี่ยนแปลงใกล้ตัวที่เกิดขึ้นให้มนุษย์ได้ฉุกคิด
เพราะโลกไม่ได้อยู่ในจุดที่เรียกว่าโลกร้อน แต่เป็น โลกเดือด ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเรายังไม่เริ่มแก้ไขตั้งแต่วันนี้ แน่นอนว่าสภาพอากาศแปรปรวน อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จะไม่มีเวลาให้เราได้ต่อรองกับเรื่องนี้อีกต่อไปในอีกไม่กี่ปี
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและการดำเนินการแก้ไขเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน ที่ต้องตระหนักถึงปัญหาและร่วมมือกันแก้ไขอย่างจริงจัง เพื่อรักษาโลกของเราไว้สำหรับคนรุ่นหลังต่อไป
ซึ่งจริง ๆ แล้วก็มีหลายเหตุธรรมชาติที่ผ่านมาในปี 2024 ไม่ว่าจะเป็นหิมะตกในทะเลทรายซาฮารา น้ำท่วมใหญ่ในดูไบ ที่เกิดขึ้นในรอบหลายปี นักวิทยาศาสตร์ต่างคาดเดากันว่าสิ่งเหล่านี้เกิดจากอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ บ่งบอกถึงสภาวะโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ผิดปกติ เพราะโลกสร้างสมดุลของภูมิอากาศจากการไหลเวียนของกระแสน้ำอุ่นและน้ำเย็นในมหาสมุทร การไหลเวียนของกระแสน้ำนี้ก่อให้เกิดฤดูกาลและภูมิอากาศ แต่เมื่อวัฏจักรนี้ถูกเปลี่ยน ผลที่ตามมาคือ “ภัยธรรมชาติที่รุนแรงแบบสุดขั้ว”
จากปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นทำให้เห็นถึงสภาวะโลกที่เผชิญกับความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั้นเกิดจากกิจกรรมของมนุษย์อย่างชัดเจน และโลกกำลังส่งสัญญาณเตือนให้เราตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้
มีรายงานเรื่อง State of the Climate 2024 ขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก ว่าอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกในระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน อบอุ่นกว่าระดับก่อนยุคอุตสาหกรรมถึง 1.54 องศาเซลเซียส และสูงกว่าระดับที่กำหนดไว้ในความตกลงปารีสปี 2015 ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
โดยนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าเหตุการณ์ทางธรรมชาติในปี 2025 จะมีความรุนแรงและถี่มากขึ้นจากเดิมจนเราอาจไม่ทันตั้งตัว เห็นได้จากประเทศไทยที่ฝนตกในช่วงเข้าสู่ต้นฤดูหนาว ส่วนฤดูหนาวอยู่ในช่วงกลางเดือนแรกของต้นปี รวมถึงเหตุน้ำท่วมหนักในเชียงใหม่ และภาคใต้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนอย่างมหาศาล นี่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของความเปลี่ยนแปลงใกล้ตัวที่เกิดขึ้นให้มนุษย์ได้ฉุกคิด
เพราะโลกไม่ได้อยู่ในจุดที่เรียกว่าโลกร้อน แต่เป็น โลกเดือด ที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเรายังไม่เริ่มแก้ไขตั้งแต่วันนี้ แน่นอนว่าสภาพอากาศแปรปรวน อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จะไม่มีเวลาให้เราได้ต่อรองกับเรื่องนี้อีกต่อไปในอีกไม่กี่ปี
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและการดำเนินการแก้ไขเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วน ที่ต้องตระหนักถึงปัญหาและร่วมมือกันแก้ไขอย่างจริงจัง เพื่อรักษาโลกของเราไว้สำหรับคนรุ่นหลังต่อไป
แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว
2025ภัยธรรมชาติภาวะโลกเดือดsustainabilityTechmovementMoveForBetterTHDigitalMovewithTechMovement
