
ปัจจุบันเบอร์มือถือเป็นตัวเชื่อมเราเข้ากับโลกดิจิทัลทั้งหมด ตั้งแต่ใช้ติดต่อสื่อสาร การทำธุรกรรมออนไลน์ หรือใช้ยืนยันตัวตนเพื่อเข้าถึงบริการที่สำคัญได้ง่ายขึ้น
แต่ด้วยการลงทะเบียนซิมที่ใช้กันอยู่ตอนนี้ ที่ใช้แค่บัตรประชาชน และภาพถ่ายใบหน้า ก็สามารถเปิดซิมได้แล้ว อาจดูสะดวกและปลอดภัย แต่ความสะดวกนี้กลับเป็นช่องโหว่ที่ทำให้มิจฉาชีพสวมรอย และก่ออาชญากรรมที่แฝงเป็นตัวตนเราได้
อย่างกรณีที่มีมิจฉาชีพนำเอกสารบัตรประชาชนปลอมของเหยื่อรายหนึ่ง ไปออกซิมมือถือใหม่ เพื่อนำไปขอ OTP บัตรเครดิต ก่อนนำไปรูดซื้อสินค้า ทำให้เหยื่อเสียหายกว่า 70,000 บาท ขณะเดียวกัน ซิมของเหยื่อก็ถูกตัดสัญญาณ
ซึ่งก็มีผู้เสียหายบางรายพบว่ามีคนนำบัตรประชาชนของตนไปเปิดซิมหลายหมายเลข และในหลายกรณียังมีผู้เสียหายถูกเรียกเก็บค่าบริการจากธุรกรรมที่ตนไม่ได้ทำอีกด้วย
นอกจากนี้ยังพบว่าซิมปลอมเคยถูกใช้ควบคุมระเบิดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยผู้ก่อเหตุสามารถสวมรอยเป็นใครก็ได้ ทำให้การติดตามและจับกุมเป็นไปอย่างยากลำบาก
จากสาเหตุทั้งหมดนี้ทำให้ต้องยกระดับระบบลงทะเบียนให้ปลอดภัยขึ้น โดยกสทช. เริ่มบังคับใช้เทคโนโลยี “Liveness Detection” เพื่อตรวจสอบตัวตนแบบเรียลไทม์กับผู้ที่เปิดซิมใหม่ หรือผู้ใช้เบอร์เดิมที่ขอเปลี่ยนซิม ตั้งแต่วันที่ 18 ส.ค. 68 เป็นต้นไป ช่วยเพิ่มโอกาสป้องกัน และการติดตามอาชญากรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากจากเดิม
เทคโนโลยีนี้จะช่วยยืนยันว่าผู้ลงทะเบียนเป็นคนจริง ไม่ใช่ภาพถ่ายหรือวิดีโอปลอม โดยระบบจะให้ทำท่าทางง่ายๆ อย่างการกระพริบตาหรือหยุดนิ่งต่อหน้ากล้อง คล้ายการยืนยันตัวตนในแอปฯธนาคาร ซึ่งเข้มงวดกว่าการถ่ายภาพนิ่งแบบเดิม เพื่อป้องกันมิจฉาชีพสวมรอย
มาตรการนี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้ ว่าบัตรประชาชน และข้อมูลส่วนตัวจะไม่ถูกนำไปใช้เปิดซิมโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะไม่สามารถถูกนำไปทำธุรกรรม หรือนำไปก่ออาชญากรรมได้อีกต่อไป
แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว