
ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เรื้อรัง สร้างความเสียหายให้คนไทยอย่างมาก ซึ่งหน่วยงานภาครัฐเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงดำเนินการมาตรการต่างๆอย่างต่อเนื่อง เพื่อจัดการปัญหาเหล่านี้
ล่าสุด กสทช. เดินหน้าใช้มาตรการคุมเข้ม “ตัดสัญญาณโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ต” ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีมติให้ผู้ให้บริการเครือข่ายทุกราย ยุติการปล่อยสัญญาณทุกรูปแบบในพื้นที่ที่ติดชายแดนทั้งหมด โดยจะเริ่มจากพื้นที่ซึ่งติดชายแดนมากที่สุด ภายใน 15 วันนับจากนี้
หากต้องการส่งสัญญาณข้ามแดนอีก ผู้ให้บริการต้องแสดงหลักฐานคู่ค้าฝั่งกัมพูชาอย่างชัดเจน ระบุประเภทธุรกิจ พร้อมแจ้งปริมาณ Bandwidth ที่ใช้งาน
นอกจากการตัดสัญญาณในพื้นที่ชายแดนแล้ว กสทช. ยังร่วมมือกับผู้ให้บริการมือถือ เพื่อคุมเข้มขั้นตอนการเปิดใช้งานซิมในฝั่งกัมพูชา โดยต้องยืนยันตัวตน และแจ้งวัตถุประสงค์การใช้งานอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้ซิมถูกนำไปใช้ในทางผิดกฎหมาย
แม้การควบคุมสัญญาณในพื้นที่ชายแดนอาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานของประชาชนบางส่วน แต่กสทช. ได้ประสานผู้ให้บริการเตรียมจัดรถซิมโมบายล์เข้าให้บริการในพื้นที่ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกันภาคเอกชนไทยที่ไปทำธุรกิจฝั่งกัมพูชา จะมีการแยกท่อส่งสัญญาณเฉพาะ เพื่อไม่ให้มาตรการตัดสัญญาณกระทบกับการดำเนินงานซึ่งมาตรการนี้จะช่วยลดปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ทำให้คนไทยสูญเงินให้มิจฉาชีพไปได้จำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีมาตรการต่างๆ แต่แน่นอนว่ามิจฉาชีพเหล่านี้ยังคงพัฒนากลโกงอยู่เสมอ ฉะนั้นการดำเนินมาตรการควบคุมอาจต้องทำอย่างต่อเนื่อง และปรับตัวให้เร็วอยู่เสมอ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ประชาชนได้ในระยะยาว
ล่าสุด กสทช. เดินหน้าใช้มาตรการคุมเข้ม “ตัดสัญญาณโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ต” ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีมติให้ผู้ให้บริการเครือข่ายทุกราย ยุติการปล่อยสัญญาณทุกรูปแบบในพื้นที่ที่ติดชายแดนทั้งหมด โดยจะเริ่มจากพื้นที่ซึ่งติดชายแดนมากที่สุด ภายใน 15 วันนับจากนี้
หากต้องการส่งสัญญาณข้ามแดนอีก ผู้ให้บริการต้องแสดงหลักฐานคู่ค้าฝั่งกัมพูชาอย่างชัดเจน ระบุประเภทธุรกิจ พร้อมแจ้งปริมาณ Bandwidth ที่ใช้งาน
นอกจากการตัดสัญญาณในพื้นที่ชายแดนแล้ว กสทช. ยังร่วมมือกับผู้ให้บริการมือถือ เพื่อคุมเข้มขั้นตอนการเปิดใช้งานซิมในฝั่งกัมพูชา โดยต้องยืนยันตัวตน และแจ้งวัตถุประสงค์การใช้งานอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้ซิมถูกนำไปใช้ในทางผิดกฎหมาย
คนไทยที่อยู่บริเวณชายแดนจะได้รับผลกระทบหรือไม่ ?
แม้การควบคุมสัญญาณในพื้นที่ชายแดนอาจส่งผลกระทบต่อการใช้งานของประชาชนบางส่วน แต่กสทช. ได้ประสานผู้ให้บริการเตรียมจัดรถซิมโมบายล์เข้าให้บริการในพื้นที่ เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น
ขณะเดียวกันภาคเอกชนไทยที่ไปทำธุรกิจฝั่งกัมพูชา จะมีการแยกท่อส่งสัญญาณเฉพาะ เพื่อไม่ให้มาตรการตัดสัญญาณกระทบกับการดำเนินงานซึ่งมาตรการนี้จะช่วยลดปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่ทำให้คนไทยสูญเงินให้มิจฉาชีพไปได้จำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีมาตรการต่างๆ แต่แน่นอนว่ามิจฉาชีพเหล่านี้ยังคงพัฒนากลโกงอยู่เสมอ ฉะนั้นการดำเนินมาตรการควบคุมอาจต้องทำอย่างต่อเนื่อง และปรับตัวให้เร็วอยู่เสมอ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ประชาชนได้ในระยะยาว
แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว
กสทชกัมพูชาชายแดนLocaltechMoveForBetterTH