กฎหมายใหม่เกาหลี ให้เหยื่อดู Stalker ได้เรียลไทม์ พร้อมเชื่อมสายหาตำรวจ

สังคม

กฎหมายใหม่เกาหลี ให้เหยื่อดู Stalker ได้เรียลไทม์ พร้อมเชื่อมสายหาตำรวจ

Clock Icon

8 ธันวาคม 2568

แชร์ :

เกาหลีใต้กำลังเดินหน้าเปลี่ยนเกมเรื่อง “ความปลอดภัยของเหยื่อสตอล์กเกอร์” ด้วยแผนพัฒนาแอปฯมือถือใหม่ ที่จะให้เหยื่อเห็น ตำแหน่งแบบเรียลไทม์ ของผู้กระทำผ่านแผนที่บนสมาร์ตโฟน

ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ไขกฎหมายการติดตามทางอิเล็กทรอนิกส์ของเกาหลีใต้ เพราะที่ผ่านมา หาก Stalker อยู่ใกล้ เหยื่อจะได้รับแค่ข้อความเตือนเท่านั้น แต่ไม่ได้รู้ตำแหน่งจริง ทำให้หลายครั้งเหยื่อไม่รู้ว่าควรหนีไปทิศไหน หรือสถานการณ์เข้าขั้นอันตรายหรือไม่

โดยกระทรวงยุติธรรมมีแผนเชื่อมระบบติดตามกับสายด่วนฉุกเฉินของตำรวจของเกาหลี” เพื่อให้สามารถติดตามการเคลื่อนไหวของผู้ต้องสงสัยแบบเรียลไทม์ได้และพร้อมตอบสนองทันทีเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง

ระบบรู้ได้ยังไงว่าใครเป็นสตอล์กเกอร์?

ข้อมูลตำแหน่งจะถูกส่งมาจากกำไลติดตามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Monitoring Device) ซึ่งใช้ระบบ GPS ในการดูความเคลื่อนไหวของผู้กระทำผิดที่ถูกประเมินว่ามีความเสี่ยงสูง ไม่ว่าจะเป็นอดีตนักโทษในคดีรุนแรงต่างๆ หรือผู้ต้องสงสัยที่มีพฤติกรรมอันตราย และช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกาหลีใต้ก็ได้ขยายการใช้กำไลนี้ไปถึงคดีสะกดรอยตามด้วย โดยเฉพาะผู้ที่มีแนวโน้มจะก่อเหตุซ้ำ

มาตรการใหม่นี้พัฒนาขึ้นท่ามกลางปัญหาสตอล์กที่พุ่งสูงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เกาหลีใต้ประกาศใช้ Stalking Punishment Act ในปี 64

ซึ่งเป็นกฎหมายที่กำหนดให้ “การสตอล์ก” เป็นความผิดทางอาญาที่มีโทษจริง ทั้งการติดตาม คุกคาม สะกดรอย โทรรบกวน ส่งข้อความคุกคาม หรือกระทำใด ๆ ที่ทำให้เหยื่อรู้สึกกลัวหรือถูกล่วงละเมิด

โดยกฎหมายนี้ยังเปิดช่องให้ศาลออกคำสั่งห้ามเข้าใกล้ และให้เจ้าหน้าที่ใช้อุปกรณ์ติดตามเพื่อคุ้มครองเหยื่อได้

หากมองกลับมาที่บ้านเราเอง ปัญหาเกี่ยวกับการ Stalking ก็เกิดมากขึ้น ตั้งแต่คดีแฟนเก่าตามราวีจนก่อเหตุอันตรายไปจนถึงคดีสะกดรอยผู้หญิงที่เดินกลับบ้านคนเดียว แต่ยังไม่มีกฎหมายเฉพาะเรื่อง Stalking เหมือนเกาหลี ซึ่งปัจจุบันสิ่งที่ใกล้เคียงกับกฎหมาย Stalking มากที่สุด คือ มาตรา 397 ที่ระบุว่า ผู้ที่ "รังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้ได้รับความอับอายเดือดร้อนรำคาญ” เป็นความผิด แต่โทษอาจไม่ครอบคลุม ทำให้ถ้าเราโฟกัสแค่เรื่อง Stalking อย่างเดียว จะไม่มีบทบัญญัติในการคุ้มครองผู้เสียหายแบบเกาหลีใต้

ซึ่งหากมีปัญหาเรื่องการ Stalking เกิดขึ้น กฎหมายจะคุ้มครองผู้เสียหายได้ สถานการณ์ก็ผ่านเลยไปจนเกิดเป็นความผิดทางอาญาฐานที่กำหนดที่เป็นการเฉพาะเสียก่อน

นักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญจึงมองว่าไทยควรมีกฎหมายเฉพาะ Stalking นิยามชัดเจน ครอบคลุมทั้งทางกายและออนไลน์ พร้อมมีบทลงโทษเหมาะสม เพื่อให้เหยื่อสามารถปกป้องตัวเองได้ทันที

ส่วนกำไลติดตามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Monitoring Device) ไทยเองก็เคยนำมาใช้กับผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว, ผู้ต้องโทษคุมประพฤติ, หรือผู้ประกันตัว เพื่อจำกัดการเดินทางและติดตามพฤติกรรม

การใช้งานยังไม่แพร่หลายและมีข้อจำกัดหลายด้าน เพราะอุปกรณ์บางรุ่นเคยพบปัญหา อย่างส่งสัญญาณไม่เสถียรหรือถอดออกได้ง่าย ทำให้โครงการเช่ากำไล EM ถูกยกเลิกหรือชะลอการใช้ไป

แต่บางกรณีศาลยังมีอำนาจสั่งให้ผู้ต้องหาบางคน เช่น ผู้ประกันตัวหรือผู้ต้องโทษคุมประพฤติใส่กำไล แต่ระบบยังไม่สามารถติดตามผู้ต้องหาแบบเรียลไทม์ หรือครอบคลุมทุกคดีเหมือนในต่างประเทศ

โมเดลกฎหมายของเกาหลีจึงน่าสนใจ เพราะชี้ให้เห็นว่าการป้องกัน Stalking ต้องปรับทั้งกฎหมายและเทคโนโลยีที่นำมาใช้ เพื่อสร้างระบบที่ช่วยให้ประชาชนมีเครื่องมือและมาตรการสนับสนุนความปลอดภัยมากขึ้น

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของเทคโนโลยี ที่จะพัฒนาและยกระดับประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้าได้ที่ Tech Movement

แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กฎหมายใหม่เกาหลี ให้เหยื่อดู Stalker ได้เรียลไทม์