_DE_เตือน_!_อย่าหลงเชื่อ.webp

สังคม

DE เตือน ! อย่าหลงเชื่อข่าวปลอมบนโซเชียล ต้องเช็กก่อนแชร์

Clock Icon

19 พฤษภาคม 2568

Facebook IconLine IconX Icon
เมื่อข้อมูลหลั่งไหลถึงมือเราง่ายทุกวินาที โซเชียลมีเดียที่เป็นศูนย์กลางข่าวสาร ก็อาจกลายเป็น “แหล่งกลลวง” ที่ใครหลายคนไม่ทันรู้ตัวว่า กำลังตกเป็นเหยื่อของอาชญากรรมออนไลน์รูปแบบใหม่ที่แยบยลขึ้นทุกวัน

ช่วงที่ผ่านมา จะเริ่มเห็นรูปแบบ “ข่าวปลอม” ที่ไม่ใช่แค่การให้ข้อมูลผิดๆ แบบเดิมๆ อีกต่อไป แต่คือการ “ปลอมเพื่อหลอกลวง” อย่างตั้งใจ ด้วยการแฝงมาในรูปแบบเพจปลอม บัญชีโซเชียลมีเดียปลอม หรือแม้กระทั่งเว็บไซต์ที่ดูเหมือนของจริงจนแทบแยกไม่ออก

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม (Anti-Fake News Center Thailand) ได้มอนิเตอร์ และรับแจ้งข่าวปลอมจากประชาชน ร่วมกับการคัดกรองข่าว พร้อมออกมาเตือนภัยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในสัปดาห์ล่าสุด (9 – 15 พ.ค.68) ก็ได้เปิดเผยรายชื่อ 10 ข่าวปลอมอาชญากรรมออนไลน์ ที่ถูกพูดถึงและแจ้งเบาะแสเข้ามามากที่สุด

โดยจากข้อมูลที่เปิดเผย พบว่าในช่วงเวลานั้นมีข้อความเข้ามาทั้งหมดกว่า 817,414 ข้อความ และในจำนวนนี้มี 623 ข้อความ ที่เข้าข่ายต้องตรวจสอบโดยละเอียด ซึ่งช่องทางที่พบเบาะแสมากที่สุด คือระบบ Social Listening
(การจับข้อมูลจากโซเชียลมีเดีย) ถึง 581 ข้อความ รองลงมาคือการแจ้งผ่าน Line Official อีก 42 ข้อความ

เมื่อคัดกรองแล้ว พบว่ามี 217 เรื่อง ที่ต้องตรวจสอบจริงจัง และหลังจากประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ก็ได้รับการยืนยันกลับมาแล้ว 99 เรื่อง ซึ่งใน 10 เรื่องที่ถูกแชร์กันอย่างแพร่หลาย ทั้งหมดเกี่ยวข้องกับ “การเงิน การลงทุน และการกู้ยืม” ที่สร้างความเข้าใจผิด และหลอกให้เหยื่อหลงเชื่อ เช่น

1.เพจปลอมแอบอ้างว่า “การบินไทย” เปิดให้ซื้อ-ขายหุ้น AOT
2.การหลอกขายหุ้นผ่านเพจปลอมที่ใช้ชื่อใกล้เคียงกับ CPALL
3.เฟซบุ๊กปลอมชื่อ Stock Master แอบอ้างว่าเป็นของตลาดหลักทรัพย์
4.กลลวงชวนเทรดหุ้นฟรีสำหรับมือใหม่ ที่ไม่ใช่โครงการจริง
5.เพจ TikTok ปล่อยกู้ในนามธนาคารออมสิน
6.เพจที่อ้างว่า “กระทรวงดิจิทัลฯ” เปิดลงทะเบียนรับเงินคืน
7.เพจแอบอ้างบริการเงินกู้สูงสุด 1 ล้านบาท
8.กลุ่มไลน์ปลอมที่ชวนเข้าร่วมลงทุนเพื่อวางแผนเกษียณ
9.เพจที่แสดงตนว่าให้คำปรึกษาด้านกฎหมายในการตามเงินคืน
10.ผู้แอบอ้างเป็นผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ เปิดเพจให้คำแนะนำการลงทุน

ข่าวเหล่านี้ล้วนมีจุดร่วมคือ “ใช้ความน่าเชื่อถือขององค์กรใหญ่” มาหลอกลวง เช่น ธนาคาร หน่วยงานรัฐ หรือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ แล้วสร้างเรื่องให้ดูเหมือนจริง ด้วยภาษาที่น่าเชื่อถือ ภาพประกอบที่ดูเป็นมืออาชีพ หรือแม้แต่การลงโฆษณาเพื่อให้คนเห็นมากขึ้น

DE ไม่เพียงแค่ตรวจจับข่าวปลอม แต่ยังมุ่งมั่น “สร้างการตระหนักรู้” ให้กับประชาชน ให้เข้าใจว่าข่าวที่ดูน่าเชื่อถือไม่ได้หมายความว่าจะเป็นความจริงเสมอไป โดยเฉพาะข่าวที่มีลักษณะ “เร่งเร้าให้รีบตัดสินใจ” อย่างการ รีบลงทะเบียน รีบโอนเงิน หรือรีบสมัครเข้าร่วม นั่นมักเป็นธงแดงว่า “เราอาจกำลังถูกหลอก”

ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดคือ “ตรวจสอบก่อนแชร์” และ “ตั้งสติทุกครั้งก่อนคลิก” ลิงก์ใดก็ตามที่อ้างว่าได้เงินง่าย กู้เงินได้ทันที หรือลงทุนแบบไม่มีความเสี่ยง ล้วนเป็นข้อเสนอที่ควรเอะใจ และตั้งข้อสงสัยไว้ก่อน เพื่อตรวจสอบแหล่งข้อมูลทางการก่อนเสมอ อย่าง เว็บไซต์หน่วยงานรัฐ หรือเพจเฟซบุ๊กที่มีเครื่องหมายรับรองจากแพลตฟอร์ม

เพราะทุกๆ การคลิกและแชร์ของเรา อาจมีผลมากกว่าที่คิด บางคนอาจเสียเงิน บางคนอาจเสียข้อมูลส่วนตัว ซึ่งควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนเสมอว่าสิ่งที่เราแชร์คือ “เรื่องจริง\" ไม่ใช่ \"กลโกงหลอกเหยื่อ”

หากพบเบาะแสข่าวปลอม และอาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ สามารถแจ้งได้ที่เว็บไซต์ของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม: https://www.antifakenewscenter.com หรือแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official: @antifakenewscenter และ สายด่วน 1111 (24 ชม.)

แท็กที่เกี่ยวข้องข่าว

DEกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมAntiFakeNewsCenterศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมข่าวปลอมLocaltech

ข่าวที่เกี่ยวข้อง